โลกศึกษา(Global Education) “โลกศึกษา”
1. การวิเคราะห์สถานการณ์โลกปัจจุบัน
2. วิสัยทัศน์ในการกาหนดทิศทาง หรือพัฒนารูปแบบวิธีการในการแก้ปัญหา 3. กระบวนการเปลี่ยนแปลงเพื่อมุ่งสู่ความเป็นพลเมืองโลกที่รับผิดชอบ การจัดการเรียนรู้จะมุ่งเน้น
- การวิเคราะห์เหตุการณ์และการพัฒนาที่เกิดขึ้นในจุดเล็ก ๆ ที่เป็นสถานการณ์หรือความจริงใกล้ตัวผู้เรียน
- การเลือกประเด็นเรื่องราวที่เฉพาะเจาะจงและสัมพันธ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
- การกระตุ้นให้ตระหนักถึงความเชื่อมโยงเหตุการณ์ดังกล่าวในระดับท้องถิ่นกับระดับโลกในภาพกว้าง และให้มีการอภิปราย สนทนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเหตุการณ์ดังกล่าว (Global Education) หรือมีผู้บัญญัติว่าโลกาภิวัตน์ศึกษาเป็นแนวคิดทางการศึกษาซึ่งพัฒนามาจากข้อเท็จจริงที่ว่ามนุษย์ปัจจุบันมีความเป็นอยู่ และมีปฏิสัมพันธ์กันในโล ยุคโลกาภิวัตน์มากขึ้น จึงจาเป็นต้องจัดการศึกษา เพื่อให้ผู้เรียนรับรู้ความเป็นจริงต่าง ๆ ของโลกโลกาภิวัตน์ (Globalized world) และปลุกให้ผู้เรียนได้ลุกขึ้นมาสร้างโลกที่มีความชอบธรรม เสมอภาค และเคารพสิทธิมนุษยชนมากขี้น รวมถึงความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาที่ยั่งยืน สันติภาพ การป้องกันความขัดแย้ง และการศึกษาระหว่างวัฒนธรรม ตลอดจนความเป็นพลเมืองโลก โลกศึกษาเป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงในเชิงลึกทั้งด้านพื้นฐานความคิด ความรู้สึกและการกระทาที่มุ่งให้เกิดการเปลี่ยน แปลง การเชื่อมโยงประสานสัมพันธ์ ความเสมอภาคเท่าเทียม ความยุติธรรมในสังคม ความเข้าใจกันระหว่างมนุษย์ โดยมีขั้นตอนหลักในการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลง คือ กระบวนการตัดสินใจแบบมีส่วนร่วมเพื่อให้ผู้เรียนมี ความตระหนักรู้ในตนเองร่วมกัน นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้หาหนทางในการเปลี่ยนแปลงในระดับท้องถิ่นที่จะส่งผลต่อระดับโลก ดังนั้นเนื้อหาสาระของโลกศึกษาจึงไม่ได้เกิดจากแนวคิดที่จาแนกองค์ความรู้ที่เป็นนามธรรม หากแต่เกิดจากความต้องการและความจาเป็นที่เกิดขึ้น ปรากฎอยู่จริงจากการแสดงออกของมนุษย์ โดยมีสาระสาคัญที่พึงพิจารณาในการจัดการเรียนการสอนคือ แนวคิดหลักของโลกศึกษาและขอบข่ายเนื้อหาสาระ โลกศึกษาเป็นสหวิทยาการ (Interdisciplinary) ไม่มุ่งเน้นการสอนเนื้อหาใหม่ ๆ แต่เน้นการเพิ่มพูนความรู้ ความคิดรวบยอดและเนื้อหาสาระของสาขาวิชา หรือกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาในมิติที่ขยายกว้างระดับโลก ซึ่งจาแนกได้ดังนี้ - ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการโลกาภิวัตน์และการพัฒนาสังคมโลก
- ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความเป็นมาและปรัชญาความคิดของมนุษยชาติ
- ความรู้เกี่ยวกับความเป็นสังคมชุมชนและความแตกต่าง
ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการโลกาภิวัตน์และการพัฒนาสังคมโลก จุดเน้นของโลกศึกษาคือความเป็นธรรมในสังคม และการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อเปิดโอกาสให้กับชีวิตของมนุษย์ทุกคน ดังนั้น ขอบข่ายเนื้อหาควรประกอบด้วยประเด็นที่สาคัญว่าด้วย สภาพการดารงชีวิตในระดับท้องถิ่น และส่วนอื่น ๆ ของโลก สังคมที่มีวัฒนธรรมหลากหลาย สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ สังคม การเมืองและวัฒนธรรม ความสัมพันธ์และการพึ่งพาอาศัยกันระหว่างภูมิภาค ประเทศ และทวีปตลอดจนทรัพยากรธรรมชาติที่จากัด สังคมข้อมูลข่าวสาร และสื่อ ค
ของมนุษยชาติ วามรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความเป็นมาและปรัชญาความคิด โลกศึกษามีขอบข่ายสาระความรู้ที่เกี่ยวกับความคิดรวบยอดของความเป็นมนุษยชาติ เช่น สิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย และธรรมาภิบาล เศรษฐศาสตร์ ความยุติธรรมในสังคม การค้าที่เป็นธรรม ความเสมอภาคทางเพศ สันติภาพและความขัดแย้ง การเปลี่ยนแปลง ความเป็นพลเมือง ความหลากหลาย ความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรม การพัฒนาอย่างยั่งยืน สุขภาพอนามัยและความเสมอภาคเท่าเทียมในการเข้าถึงความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความรู้เกี่ยวกับความเป็นสังคมชุมชนและความแตกต่าง ได้แก่ความรู้เกี่ยวกับความเป็นชุมชน และความแตกต่างหลากหลายของแบบแผนการดารงชีวิต (Life Styles) ศาสนา วัฒนธรรม ชีวิตของคนต่างรุ่นต่างวัย (Generations)
โลกศึกษามีมิติของโลก
1. ความเป็ นพลเมื องโลก (Global Citizenship) ได้แก่ ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิด หลักการ และสถาบัน การมีบทบาทที่เกี่ยวข้องในฐานะสมาชิกของสังคมทั้งในระดับ ท้องถิ่น ประเทศ และระดับโลก ตลอดจนการมีส่วนร่วม รับผิดชอบในฐานะพลเมืองที่ดีของสังคมที่คา นึงถึงสิทธิมนุษยชนและอุดมการณ์ ประชาธิปไตย 2. ความยุติ ธรรมในสั งคม (Social justice) ได้แก่ ความสา นึกตระหนักในความสา คัญของความเสมอภาคและความ ยุติธรรมในสังคม มีบทบาทและมีส่วนร่วมในการสร้างความเท่า เทียมและความเป็นธรรมในสังคม 3. สิ ทธิ มนุษยชน (Human Rights) ได้แก่ ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิ มนุษยชนการเคารพ และยึดมั่นในสิทธิและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ 4. การแก้ปัญหาความขั ดแย้ ง(Conflict Resolution) ได้แก่ ความรู้ความเข้าใจธรรมชาติของความขัดแย้ง มีขันติ อดทน อด กลั้นต่อความแตกต่างขัดแย้งสามารถเจรจาต่อรอง เชื่อมประสาน เพื่อลด ปัญหาหรือคลายปมขัดแย้ง โดยปราศจากการใช้ความรุนแรง 5. การพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) ได้แก่ ความรู้ ความเข้าใจหรือความจาเป็นในการจรรโลง รักษาและพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยปราศจากการทาลายโลกเพื่อความอยู่รอดของชีวิตในรุ่นต่อไป โดยคานึงถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืน 6. ค่านิยม และการสัมผัสรับรู้ (Values &Perceptions) ได้แก่ ความสามารถในการประเมินคุณค่าเกี่ยวกับประเด็นสาคัญระดับโลกและผลที่กระทบต่อเจตคติและค่านิยมของผู้คนที่เกี่ยวข้อง โดยคานึงถึงความสาคัญและค่านิยมด้านสิทธิมนุษยชน 7. ความหลากหลาย (Diversity) ได้แก่ ความรู้ความเข้าใจการยอมรับ และตระหนักในความหลากหลายทางเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ สังคม วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี รวมทั้งความหลากหลาย ทางชีวภาพตลอดจนผลกระทบของสภาพแวดล้อมที่มีต่อเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม 8. การพึ่งพาอาศัยกัน (Interdependence) ได้แก่ ความเข้าใจตระหนักรู้ถึงความสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างกันของผู้คน ถิ่นฐาน เศรษฐกิจ ธรรมชาติสิ่งแวดล้อมที่ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เข้าใจสภาวการณ์ในระดับโลก สามารถเรียนรู้ที่จะจัดการกับความซับซ้อนได้ (Global Dimension) ที่ เป็นแนวคิด หลักซึ่งสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน 8 ด้าน ดังนี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น